dream-story-teller
มิติคู่ขนาน/แวมไพร์/การกรีดร้องที่ไร้เสียง/มัมมี่
ต.ค. 14
ใช้เวลาอ่าน 1 นาที
0
1
0
ในมิติคู่ขนานของฉันเต็มไปด้วยเวทย์มนต์ นักท่องกาลเวลาล้วนแล้วแต่ปรารถนาจะไปเยือนสักครั้ง ฉันก็เช่นกัน ในวันฮาโลวีนปีนี้ ที่แห่งนั้นจะจัดงานเทศกาลเดียวกันหรือไม่ ฉันอยากรู้...
แล้วฉันก็พบโลงศพของชายผู้หนึ่งในสุสานหลวง แห้งกรังน่ากลัวดูไม่ดี สิ่งนั้นคือมัมมี่ ทว่าเมื่อคลี่ผ้าออกมาในยามเที่ยงคืนกลับกลายเป็นเชื้อพระวงศ์รูปงามผิวสีแทน เชิญชวนให้ฉันเต้นรำ
ฉันเต้นรำไม่เป็น ได้แต่หมุนไปหมุนมาในชุดผ้าโปร่งบางเบา ราวกับความฝันตื่นหนึ่ง สุราเลิศรส สาวงามเคียงกาย พร้อมดูแล อาหารเลิศรสที่พวกหล่อนยกมาช่างน่ารับประทาน ฉันไม่ค่อยกล้ากินเท่าไรนัก เพราะเป็นของคนตาย หากคนเป็นกินเข้าไปจะตกอยู่ในโลกแห่งความตายชั่วนิรันดร
ท่ามกลางแสงเงินยวง ทะเลทรายกว้างใหญ่ไพศาล ผ้าคลุมโบกสะบัดแล้วเขาก็ปรากฏ แก้วตาสีแดง เส้นผมสีเข้มกลืนไปกับรัตติกาล ท่ามกลางแสงเงินยวง เขาโอบกอดฉันไว้ในอ้อมแขนก่อนจะพาเหินไปยังอากาศ เขาโอบอยู่เบื้องหลังฉันเหมือนในอนิเมะเรื่องปราสาทเวทย์มนต์ของฮาวล์ เราร่อนลงที่ปราสาทแห่งหนึ่งสไตล์ยุโรปเหนือ หิมะโปรยปราย แม้ทะเลทรายยามค่ำคืนจะหนาวอยู่แล้ว แต่ที่นี่กลับหนาวยิ่งกว่า เขาโอบกอดฉันจนรู้สึกอุ่นขึ้น เมื่อเขาคลายอ้อมแขนออกฉันก็อยู่ในชุดราตรีงดงามหนานุ่มอุ่นสบาย
เขาแย้มยิ้มงดงาม เขี้ยวและบุคลิกของเขาบ่งชัดว่าเป็น ‘แวมไพร์’ ร่างสูงสง่าเชิญฉันเข้าไปในสวนยามราตรี ท่ามกลางหิมะโปรย ทว่ามิต้องพื้น ราวกับมีม่านพลังบาง ๆ ปกป้องสวนดอกไม้แห่งนี้เอาไว้ พวกเราเต้นรำกันเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งนาฬิกาตีบอกเวลาหกโมงเช้า
ประกายพร่างพรายรอบตัวฉัน ฉันรู้ได้ทันทีว่าหมดเวลาเล่นแล้ว แสงสุริยาเริ่มมาเยือน เขาผู้ซึ่งมิถูกกับแสงแดดได้แต่มองมาที่ฉัน แววตาระริกไหวอย่างนึกสนุก
“seeya”
เขาเอ่ยภาษาวัยรุ่นจนฉันตกใจ ไม่คิดว่าแวมไพร์จะรู้จักภาษาวัยรุ่นแบบนี้ แล้วร่างกายของฉันก็ล่องลอยกลับสู่เครื่องข้ามมิติจำลอง จิตของฉันกลับมายังร่างของฉัน ช่างเป็นความทรงจำแสนสุขในคืนวันฮาโลวีนเสียนี่กระไร
อยากจะนอนหลับฝันเช่นนี้ตลอดไปจังเลยนะ ทว่าก็เป็นไปไม่ได้ การท่องเวลามีราคาที่ต้องจ่ายนับหมื่นเหรียญ ฉันมาเที่ยวเล่นแบบนี้บ่อย ๆ ไม่ได้หรอกนะ